คุณรู้หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไรถ้าหากหน้าจอของคุณว่างเปล่า และจะทำอย่างไรถ้าคุณไม่สามารถปิดโปรแกรมได้ หรือไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากลำโพง เมื่อใดก็ตามที่คุณพบปัญหากับคอมพิวเตอร์ อย่าพึ่งตกใจ! เรามีเทคนิคการแก้ปัญหาเบื้องต้นที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาได้
ในบทความนี้ เราจะแสดงวิธีง่ายๆ บางอย่างให้คุณลองทำเพื่อแก้ไขปัญหา รวมถึงวิธีแก้ปัญหาทั่วไปที่คุณอาจพบ

เทคนิคทั่วไปที่เราควรรู้

มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อาจทำให้เกิดปัญหากับคอมพิวเตอร์ของคุณ ไม่ว่าอะไรเป็นสาเหตุของอะไร การแก้ปัญหาจะเป็นกระบวนการของการลองผิดลองถูกเสมอ ในบางกรณี คุณก็อาจจะต้องใช้หลายๆ วิธีก่อนจึงจะสามารถหาทางออกได้ และปัญหาอื่น ๆ อาจจะแก้ไขได้ง่าย เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้

จดขั้นตอน : เมื่อทำการเริ่มแก้ไขปัญหาแล้ว ให้ทำการจดบันทึกแต่ละขั้นตอนที่กำลังทำทำ ด้วยวิธีนี้ จะสามารถจดจำสิ่งที่คุณทำไปได้อย่างแม่นยำ และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดเดิมๆ ซ้ำๆได้ หากเราต้องการขอความช่วยเหลือจากคนอื่น มันจะง่ายขึ้นมากหากพวกเขารู้แน่ชัดว่าคุณได้ทำอะไรลงไปแล้วบ้าง

จดบันทึกเกี่ยวกับข้อความแสดงผลข้อผิดพลาด : หากคอมพิวเตอร์แสดงข้อความข้อผิดพลาด ให้จดบันทึกข้อมูลให้มากที่สุด เพราะอาจจะใช้ข้อมูลนี้ในภายหลังเพื่อดูว่าคนอื่นๆนั้นมีข้อผิดพลาดเดียวกันหรือไม่

ตรวจสอบสายเคเบิลเสมอ : หากพบปัญหากับฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์บางชิ้น เช่น จอภาพหรือแป้นพิมพ์ ไม่สามารถใช้งานได้ ขั้นตอนแรกๆ คือการตรวจสอบสายเคเบิลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อมต่ออย่างถูกต้อง

การรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ : เมื่อการแก้ปัญหาบางอย่างไม่ได้ผล การรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ควรลอง วิธีนี้สามารถแก้ปัญหาพื้นฐานหลายๆ อย่างที่อาจประสบกับคอมพิวเตอร์ของคุณได้

การแก้ปัญหาด้วยการวิเคราะห์ลำดับของปัญหา

หากคุณมีปัญหากับคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณอาจสามารถค้นหาว่ามีอะไรผิดปกติโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ ซึ่งหมายความว่าคุณจะทำรายการสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหา แล้วทดสอบทีละรายการเพื่อแก้ไข และเมื่อคุณระบุแหล่งที่มาของปัญหาคอมพิวเตอร์ได้แล้ว การค้นหาวิธีแก้ไขก็จะง่ายขึ้น

ยกตัวอย่างสถานการณ์

สมมติว่าเรากำลังพยายามที่จะพิมพ์บัตรเชิญสำหรับงานวันเกิด แต่เครื่องพิมพ์ดันใช้ไม่ได้ แต่เรามีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุของสิ่งนี้ ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาทีละอย่างเพื่อดูว่า สามารถแก้ไขปัญหานี้อย่างไร

ขั้นแรก ให้เราลองตรวจสอบเครื่องพิมพ์เพื่อดูว่าเครื่องพิมพ์เปิดอยู่และเสียบปลั๊กหรือยัง ถ้าหากเครื่องพิมพ์เสียบปลั๊กอยู่แล้ว ให้คุณตรวจสอบว่าตลับหมึกของเครื่องพิมพ์ยังมีหมึกอยู่ จากนั้นให้ตรวจสอบว่ามีกระดาษติดอยู่ในเครื่องไหม ถ้าหากตรวจสอบทั้งสองอย่างนี้แล้วปกติดี ปัญหาไม่เกี่ยวกับหมึกหรือกระดาษ

ขั้นที่สอง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องพิมพ์และคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกันอย่างถูกต้อง หากเพิ่งดาวน์โหลดอัปเดตระบบปฏิบัติการ windows อาจรบกวนการทำงานของเครื่องพิมพ์ แต่ถ้าหากว่าไม่มีการอัปเดตและวันก่อนเครื่องพิมพ์ยังใช้งานได้ ดังนั้นคจะต้องหาสาเหตุอื่นต่อไปอื่น

ขั้นที่สาม ให้ลองตรวจสอบที่สาย USB ของเครื่องพิมพ์และพบว่ามันไม่ได้เสียบอยู่กับคอมพิวเตอร์ เราจะถอดปลั๊กโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือเราอาจจะนำไปเสียบเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ และเมื่อเรานำสาย USB ไปเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์เครื่องพิมพ์ก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ดูเหมือนว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขแล้วนะ!

และก็นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของปัญหาที่อาจพบเจอได้ในขณะใช้งานคอมพิวเตอร์ ในส่วนที่เหลือนี้ เราจะมาพูดถึงปัญหาของคอมพิวเตอร์ทั่วๆไป และวิธีการแก้ไขกัน

วิธีแก้ไขปัญหาทั่วไปของคอมพิวเตอร์แบบง่ายๆ

โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาสามารถแก้ไขได้โดยใช้เทคนิคการแก้ปัญหาง่ายๆ เช่น การปิดและเปิดโปรแกรมใหม่อีกครั้ง สิ่งสำคัญคือต้องลองใช้วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ เหล่านี้ก่อนที่จะหันไปใช้วิธีการที่รุนแรงกว่านี้ หากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ก็สามารถลองใช้เทคนิคการแก้ปัญหาอื่นๆดูได้

วิธีแก้ปัญหาที่ 4: ถ้าคุณใช้แล็ปท็อป แบตเตอรี่อาจจะหมด ให้ลองเสียบอะแดปเตอร์ AC ที่ปลั๊ก จากนั้นลองเปิดแล็ปท็อปดูหากเครื่องยังไม่เริ่มทำงาน ก็อาจจะต้องรอสักครู่แล้วลองอีกครั้ง

ปัญหา โปรแกรมค้าง

บางครั้งขณะที่กำลังใช้งานโปรแกรม อยู่ดีๆตัวโปรแกรมก็เกิดมาค้างสะงั้น ปิดหน้าต่างก็ไม่ได้ กดปิดก็ไม่ได้ หรือคลิกอะไรให้ตัวโปรแกรมไม่ได้เลย

วิธีแก้ปัญหาที่ 1: บังคับให้ออกจากโปรแกรม โดยสามารถกด Ctrl+Shift+Esc (ปุ่ม Control, Shift และ Esc) บนแป้นพิมพ์ค้างไว้เพื่อเปิด Task Manager ส่วนบน Mac ให้กด Command Option Esc ค้างไว้ จากนั้นให้เราเลือกโปรแกรมที่ไม่ตอบสนองและคลิก End task (หรือ Force Quit บน Mac) เพื่อปิดการทำงานของโปรแกรมนั้น

วิธีแก้ปัญหาที่ 2: รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ หากไม่สามารถบังคับปิดตัวโปรแกรมที่ค้างได้ ให้เราทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์จะเป็นการปิดโปรแกรมที่เปิดอยู่ทั้งหมด

เมื่อคอมพิวเตอร์เกิดค้าง

ในบางครั้งคอมพิวเตอร์ของเรา ก็อาจค้างโดยไม่ทราบสาเหตุไม่สามารถกดหรือคลิ๊กที่ใดบนหน้าจอได้ ถึงแม้กระทั้งโปรแกรมก็ไม่สามารถเปิดขึ้นมาได้

วิธีแก้ปัญหาที่ 1: (Windows เท่านั้น): รีสตาร์ท Windows Explorer ในการทำเช่นนี้ ให้กด Ctrl+Shift+Esc บนแป้นพิมพ์ค้างไว้เพื่อเปิด Task Manager จากนั้น ค้นหาและเลือก Windows Explorer จากแท็บ กระบวนการ แล้วคลิก รีสตาร์ท คุณอาจต้องคลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่ด้านล่างของหน้าต่างเพื่อดูแท็บกระบวนการ

วิธีแก้ปัญหาที่ 2: (เฉพาะ Mac): รีสตาร์ท Finder ในการทำเช่นนี้ ให้กด Command+Option+Esc บนแป้นพิมพ์ค้างไว้เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ Force Quit Applications จากนั้นค้นหาและเลือก Finder จากนั้นคลิกเปิดใหม่

วิธีแก้ปัญหาที่ 3: กดปุ่มเปิดปิดค้างไว้ ปุ่มเปิด/ปิดเครื่องมักจะอยู่ที่ด้านหน้าหรือด้านข้างของคอมพิวเตอร์ ซึ่งโดยทั่วไปจะแสดงด้วยสัญลักษณ์เปิด/ปิดเครื่อง กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ 5 ถึง 10 วินาทีเพื่อบังคับปิดคอมพิวเตอร์

วิธีแก้ปัญหาที่ 4: ถ้าหากยังไม่สามารถปิดคอมพิวเตอร์ คุณสามารถดึงปลั๊กไฟออกจากเต้าเสียบได้ และถ้าคุณใช้แล็ปท็อปสามารถถอดแบตเตอรี่ออกเพื่อบังคับให้ปิดคอมพิวเตอร์ได้ หมายเหตุ: วิธีแก้ปัญหานี้ควรเป็นทางเลือกสุดท้ายหลังจากลองทำตามคำแนะนำอื่นๆ ด้านบนแล้ว

คีย์บอร์ดกับเมาส์ใช้งานไม่ได้

ลำโพงไม่ดังเสียงไม่ออกทำยังไงดีล่ะ

วิธีแก้ที่ 2: ตรวจสอบส่วนควบคุมเครื่องเล่นเสียง เครื่องเล่นเสียงและวิดีโอจำนวนมาก จะมีส่วนควบคุมเสียงแยกต่างหาก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียงเปิดอยู่และได้เพิ่มระดับเสียงในเครื่องเล่นแล้ว

วิธีแก้ที่ 3: ตรวจสอบสายเคเบิล ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียบลำโพงเปิดอยู่ และเชื่อมต่อกับพอร์ตเสียงหรือพอร์ต USB ที่ถูกต้อง หากคอมพิวเตอร์ของคุณมีพอร์ตที่มีรหัสสี พอร์ตเอาต์พุตเสียงมักจะเป็นสีเขียว

จอไม่ติด หรือจอดำ

ปรึกษาและขอคำแนะนำจากผู้ที่มีความรู้

หากคุณยังไม่พบวิธีแก้ปัญหา คุณอาจต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เพื่อเป็นการเริ่มต้นง่ายๆ เราขอแนะนำให้ค้นหาเว็บ เป็นไปได้ว่าผู้ใช้รายอื่นอาจมีปัญหาที่คล้ายกัน และวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้มักจะโพสต์ทางออนไลน์ นอกจากนี้ หากคุณมีเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวที่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์มาก พวกเขาอาจช่วยคุณได้

โปรดทราบว่าปัญหาคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มีวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ แม้ว่าอาจต้องใช้เวลาสักระยะในการค้นหา สำหรับปัญหาที่ยุ่งยาก อาจต้องใช้วิธีแก้ปัญหาที่รุนแรงกว่า เช่น ฟอร์แมตฮาร์ดไดรฟ์ใหม่หรือติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ หากคุณคิดว่าคุณอาจต้องการวิธีแก้ปัญหาเช่นนี้
เราขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน หากคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านคอมพิวเตอร์ เป็นไปได้ว่าการพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้อาจทำให้สถานการณ์แย่ลงได้

ความรู้เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์”อย่างมีสติ”